PAW BALM

อาการเจ็บของอุ้งเท้าน้องหมาน้องแมวเขาจะแสดงอาการอย่างไรบ้าง

  • เลียหรือเคี้ยวฝ่าเท้าตัวเองเล่น
  •  ไม่ยอมที่จะเดินหรือวิ่ง
  • ฝ่าเท้าแดงอักเสบ บวม
  • ฝ่าเท้าพุพอง (blister paws)
  • หนังฝ่าเท้าหายไป เห็นเป็นเนื้อชมพู
  • เลือดไหลจากฝ่าเท้า
  • การฉีกขาดของหนังฝ่าเท้า เกิดได้หลายแบบ เช่น
  • lacerate หรือ puncture เป็นการตัดฉีกขาดแบบลึก อาจจะมีสิ่งแปลกปลอมที่บาดซ่อนในจุดลึกๆของหนังเท้า
  • Abrasion คือแบบที่หนังเท้าหลุดเป็นรอยเล็กๆออกมา มักเกิดจากการวิ่งหรือเล่นบนพื้นขรุขระ
  • Burn หรือไหม้ อาจจะมาจากความร้อนหรือสารเคมี

สุนัขทุกตัวจะมีข้อศอกเหมือนมนุษย์ ซึ่งข้อศอกเป็นส่วนที่เป็นรอยต่อของกระดูกขาสองท่อนที่ใช้ในการขยับ การเดิน และการค้ำยันร่างกาย แน่นอนว่ากระบวนการเหล่านี้เป็นแบบเดียวกันกับมนุษย์ ฉะนั้นหากข้อศอกถูกใช้งานมากเกินไป ก็จะทำให้ข้อศอกด้านและเป็นโรคเกี่ยวกับผิวหนังได้เลย ซึ่งหากร้ายแรงก็ถึงขั้นต้องผ่าตัดกันเลยทีเดียว 

น้องหมาน้องแมวไม่เหมือนกับเรานะคะ เรายังมีรองเท้าให้ใส่เวลาไปไหนมาไหน น้องๆถึงจะมีอุ้งเท้าที่ทนแต่ก็สามารถเกิดการแห้งแตก หรือเป็นแผลได้เช่นกัน และอาการข้อศอกด้านของน้องหมา สาเหตุที่ทำให้เป็นเช่นนั้นไปอ่านกันทุกคน 

  • keratinization : ผิวหนังชั้นหนังกำพร้าจะมีการผลัดเซลล์ผิวหนังส่วนนอกออกไปตลอดเวลา มีการแบ่งเซลล์และเคลื่อนตัวของเซลล์จากชั้นที่อยู่ด้านในมาทดแทน เรียกกระบวนการนี้ว่าการผลัดเซลล์ผิวหนัง (Skin desquamation)  โดยเริ่มจาก basal cells ในชั้น stratum basale มีการแบ่งตัวได้เป็น Keratinocytes  เซลล์เหล่านี้จะมีการเจริญ และมีพัฒนาการ เคลื่อนตัวไปทางชั้นบนขึ้นเรื่อย ๆ เซลล์จะมีการเพิ่มขนาดขึ้น และนอนแบนราบลง มีการสร้างโปรตีน และไขมันที่มีลักษณะเฉพาะ  จากนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงของผนังเซลล์  มีการสลายตัวของนิวเคลียส  และมีการสูญเสียน้ำออกจากเซลล์ จนกลายเป็น keratinocytes  ที่ตายแล้ว เรียกชื่อใหม่ว่า corneocytes  ซึ่ง corneocytes  นี้จะมีเฉพาะเส้นใยเคราติน และกลุ่มโปรตีนแข็งตัวอยู่ในเซลล์ และท้ายที่สุด corneocytes ก็จะลอกหลุดออกไปกลาย เป็นขี้ไคล (keratin) ขบวนการนี้เรียกอีกอย่างว่า keratinization  ในสุนัขจะใช้เวลาประมาณ 20 วันต่อรอบของการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งเป็นเหตุผลที่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ในการลดหรือทำลายขี้ไคลเคราตินแข็งที่อุ้งเท้าหรือข้อศอกน้องหมาแมว ให้ต่อเนื่องประมาณ 20 วัน
  • พื้นผิวหยาบ : โดยปกติแล้วอุ้งเท้าของน้องหมาน้องแมวจะมีความเรียบ ยืดหยุ่นสามารถรับแรงกระแทกจากการเดินและเคลื่อนไหวได้ แต่เมื่อเจอพื้นผิวที่หยาบ เช่น พื้นที่ขรุขระ มีหินแหลมคม พื้นที่ป่าที่มีวัชพืช การเสียดสีของอุ้งเท้ากับวัสดุต่าง ๆ อาจจะทำให้อุ้งเท้าของน้องหมาน้องแมวมีความหนามากขึ้น และเริ่มแห้งและแตกได้
  • อุณหภูมิ/ความร้อน : อุณหภูมิความร้อนทำให้อุ้งเท้าของน้องหมาน้องแมวแห้งและแตกได้ โดยเฉพาะเมื่อเดินบนพื้นผิวที่มีความร้อนโดยที่ไม่ได้ใส่รองเท้า ซึ่งจะทำให้อุ้งเท้าของน้องสัมผัสกับความร้อนโดยตรง ซึ่งเท้าของน้องก็อาจเกิดแผลพุพองที่เกิดจากการเดินบนพื้นปูนซีเมนต์ หรือเดินบนยางมะตอยร้อน ๆ ดังนั้น หากจะพาน้องไปเดินเล่นออกกำลังกายก็อาจจะเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม
  • สารเคมีและสารระคายเคือง : ไม่ว่า น้องหมาน้องแมวของเพื่อน ๆ จะเดินบนพื้นหญ้า หรือทางเท้า พวกเค้าก็อาจเหยียบสารเคมีและสารระคายเคืองบนพื้นผิวได้ เช่น ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าเชื้อราและปุ๋ย สารเคมีเหล่านี้สามารถทำให้ผิวหนังระคายเคืองได้ หรือน้องอาจจะสัมผัสกับสารเคมีภายในบ้าน เช่น น้ำยาฟอกขาว น้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำยาเช็ดกระจก น้ำยาล้างจาน หรือน้ำยาดับกลิ่น หากน้องสัมผัสกับสารเคมีเหล่านี้ก็อาจทำให้เกิดการระคายเคือง ทำให้อุ้งเท้าแห้งและแตกได้เช่นกัน
  • ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ : การขาดสารอาหาร อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงบางอย่างในน้องหมาน้องแมว ตัวอย่างเช่น
  • การขาดสังกะสี (Zinc) และ ไบโอติน (Biotin) เป็นสาเหตุของผิวหนังอักเสบ อาการคันที่ผิวหนังที่เป็นสะเก็ด ทำให้อุ้งแห้งและแตก อุ้งเท้าหนา,แข็งขึ้น
  • การขาดวิตามินเอ (Vitamin A) วิตามินเอจำเป็นต่อการเจริญเติบโต ของKeratocytes และการก่อตัวของชั้นเคราติน การขาดวิตามินเอส่งผลให้หนังชั้นกำพร้าหนาขึ้น
  • การขาดโอเมก้า 3 (Omega3 ชนิด DHA) ทำให้ผิวหนังขาดความยืดหยุ่นและลดการซึมผ่านของเยื่อหุ้มเซลล์ ทำให้อุ้งเท้าแห้งและแตกได้ และเสี่ยงต่อการอักเสบ 
  • อาการแพ้ : ในน้องหมาน้องแมวบางตัวที่มีอาการแพ้จากการสัมผัสสารก่อระคายเคือง นอกจากนี้การแพ้อาหาร อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนังบริเวณอุ้งเท้าอย่างรุนแรง ซึ่งในช่วงแรกอาจจะรู้สึกไม่สบายตัว คันผิวหนัง อาจเห็นน้องหมาน้องแมวเริ่มเลียและแทะอุ้งเท้า ซึ่งกว่าเจ้าของจะรู้อุ้งเท้าของน้องก็อาจจะแห้งและแตกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
  • ความเย็น : เช่นเดียวกับอุณหภูมิที่ร้อนจัด สภาพอากาศที่หนาวเย็น ก็ทำให้อุ้งเท้าของน้องหมาน้องแมวแห้งและแตกเช่นเดียวกับผิวของคนเราในช่วงหน้าหนาวได้เช่นกัน

สาเหตุการเกิดข้อศอกด้านของน้องหมาเกิดได้จากหลายปัจจัย คล้ายกับอาการอุ้งเท้าแห้งแตกที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น จากปัจจัยหลายอย่างเช่น ลักษณะการเลี้ยงของผู้เลี้ยง ลักษณะที่อยู่อาศัย น้ำหนักตัวของน้องหมา พฤติกรรมการใช้ชีวิตของน้องหมา ฯ

โดยส่วนมากแล้วน้องหมาที่พบปัญหาข้อศอกด้านจะเป็นน้องหมาขนสั้น สายพันธุ์ใหญ่ เช่น ลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์ ฯ,โดเบอร์แมน , ร็อตไวเลอร์ , และในน้องหมาที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักส่วนเกินหรือน้องหมาอ้วนค่ะ
ข้อศอกด้านเกิดได้กับน้องหมาที่มีขนสั้น และขนยาว แต่จะพบได้บ่อยในน้องหมาที่มีขนสั้น

เนื่องจากน้องหมาที่มีขนสั้นจะมีโอกาสที่ผิวหนังและขนที่สั้นของน้องหมาจะเสียดสีกับพื้นได้ง่าย เมื่อน้องหมาขนสั้นนอนบนพื้นที่มีลักษณะหยาบและแข็ง เช่น พื้นปูนซีเมนต์ พื้นกระเบื้อง พื้นไม้ หรือพื้นดินขรุขระ น้ำหนักตัวของน้องหมาก็จะกดทับ ทำให้ผิวหนังระคายเคืองและทำให้เกิดรอยด้านขึ้น ซึ่งบริเวณที่มักพบเกิดรอยด้านจากการกดทับมักจะเป็นส่วนข้อขาที่มีกระดูกนูนออกมา โดยเฉพาะบริเวณข้อศอกของน้องหมา

   ส่วนสำหรับในน้องหมาสายพันธุ์ที่มีขนยาวนั้น ก็สามารถเกิดปัญหาข้อศอกด้านได้เช่นเดียวกันแต่จะพบได้น้อยกว่า เพราะขนที่ยาวของน้องหมาจะที่ทำหน้าที่ป้องกันและช่วยลดการเสียดสี แรงกดทับได้ดีกว่าน้องหมาขนสั้นนั่นเอง

ถึงแม้ว่า ปัญหาข้อศอกด้านที่เกิดขึ้นในน้องหมา จะไม่ส่งผลอันตรายต่อชีวิตของน้องหมา แต่ผู้เลี้ยงก็ไม่ควรละเลยการดูแลข้อศอกของน้องหมา เพราะสภาพอากาศที่ร้อนจัดจะทำให้ผิวหนังของน้องหมาน้องแมวแห้งกว่าปกติ    (เหมือนกับคนเราที่จะต้องทาครีมบำรุงเพิ่มมากขึ้นในหน้าร้อน เพราะผิวหนังจะสูญเสียน้ำจากอากาศร้อนและจากการสัมผัสโดนแสงอาทิตย์) ซึ่งหมายความว่า ผิวหนังบริเวณข้อศอกของน้องหมาก็จะยิ่งแห้งขึ้นตามไปด้วย

ในน้องหมาที่พบมีปัญหาข้อศอกด้านและไม่ได้รับการดูแลใส่ใจจากผู้เลี้ยง ข้อศอกด้านของน้องหมาก็อาจจะลุกลามเกิดเป็นแผล ติดเชื้อกลายเป็นหนองหรือฝีได้ และในน้องหมาบางตัว อาจพบปัญหาข้อศอกบวมน้ำ หรือ Elbow Hygroma ซึ่งสัตวแพทย์ก็อาจเจาะตรวจและพิจารณาผ่าตัดเพื่อรักษาอาการของน้องหมาสำหรับการดูแลป้องกันไม่ให้น้องหมามีปัญหาเรื่องข้อศอกด้าน

เมื่อเราทราบว่า อะไรเป็นสาเหตุของอุ้งเท้าแห้งแตกของน้องหมาน้องแมว เพื่อน ๆ สามารถทำตามขั้นตอนเพื่อแก้ไขปัญหาได้ แต่ถ้าหากต้นเหตุของอุ้งเท้าแตกเกิดจากอาการเจ็บป่วย หรือโรค แนะนำว่า จำเป็นต้องพาน้องหมาน้องแมวไปพบสัตวแพทย์เพื่อรักษาตามสาเหตุที่แท้จริงนะคะ สำหรับปัญหาอุ้งเท้าแห้งแตกที่เกิดจากปัจจัยภายนอกอื่น ๆ เราสามารถใช้เทคนิคต่าง ๆ เพื่อบรรเทาและดูแลอุ้งเท้าของน้องหมาน้องแมวได้ โดยมีวิธีดังนี้ค่ะ

  • ตรวจสอบและทำความสะอาดอุ้งเท้า

เราจะต้องตรวจสอบและทำความสะอาดอุ้งเท้าฝ่าเท้าให้เกลี้ยง เอาสิ่งสกปรกออกให้มากที่สุด หากพบอุ้งเท้ามีแผล หรือรอยแตกเล็ก ๆ ก็สามารถทำให้เชื้อโรคต่าง ๆ ทั้งแบคทีเรียและไวรัสสามารถเข้าไปในบาดแผล ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพได้

  • ให้อาหารที่มีส่วนช่วยบำรุงผิว

เราอาจจะปรับอาหารที่เหมาะสมให้กับน้องหมาน้องแมว เพิ่มกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่สามารถบรรเทาอาการอักเสบ ให้ความชุ่มชื้นแก่เซลล์และบำรุงผิว นอกจากนี้แล้วแนะนำว่า ให้กระตุ้นน้องหมาน้องแมวให้กินน้ำมากขึ้นเพื่อป้องกันการขาดน้ำ และช่วยให้ผิวหนังไม่แห้ง โดยอาจจะกระตุ้นด้วยการหาน้ำพุ หรือเครื่องให้น้ำอัตโนมัติสำหรับน้อง ๆ ที่กินน้ำน้อยก็ได้ค่ะ

  • ควบคุมน้ำหนัก

น้องหมามีภาวะน้ำหนักมากก็ถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดข้อศอกด้าน เพราะการที่มีน้ำหนักตัวที่มากจะทำให้ข้อศอกรับน้ำหนักมากขึ้น ทำให้เกิดกระดูกนูนออกมาเมื่อน้องหมานอนบนพื้นแข็ง ๆ เป็นเวลานานก็จะทำให้เกิดรอยด้านที่บริเวณข้อศอก

     การที่น้องหมามีน้ำหนักในเกณฑ์มาตราฐานจะช่วยให้น้องหมามีสุขภาพที่ดี ไม่เป็นโรคต่าง ๆ เช่น โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคข้อสะโพกเสื่อม โรคสะบ้าเคลื่อน และยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาข้อศอกด้าน อีกด้วย

โดยวิธีควบคุมน้ำหนักที่ดีที่สุดคือ เรื่องอาหารและการออกกำลังกาย การควบคุมน้ำหนัก ผู้เลี้ยงจำเป็นที่จะต้องให้อาหารในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวันกับน้องหมาไม่มากและไม่น้อยจนเกินไปและให้อาหารที่มีคุณประโยชน์กับน้องหมาเช่นอาหารเม็ดหรืออาหารเปียกสำเร็จรูปที่มีส่วนผสมของ กรดไขมันโอเมก้า 3 (DHA) ที่ช่วยบำรุงผิวหนังชุ่มชื้น ทำให้ขนเงางามนุ่มสลวยมากยิ่งขึ้น อโวคาโด ออยล์ ที่ช่วยลดการหลุดร่วงของขน และลดการผลัดขนในน้องหมา ลดอาการคันและยังช่วยให้ผิวหนังที่เป็นแผลหายเร็ว เบต้าแคโรทีน ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง ทำให้น้องหมามีผิวหนังที่แข็งแรง รวมถึง แอล-คาร์นิทีน ที่จะช่วยลดการสะสมของไขมันในร่างกาย จะช่วยส่งผลให้น้องหมามีสุขภาพผิวหนังชุ่มชื้น และเส้นขนนุ่มแข็งแรง

ในช่วงที่อากาศมีการเปลี่ยนแปลง เจ้าของจำเป็นที่จะต้องดูแลผิวหนังและอุ้งเท้า ข้อศอกของน้องหมาน้องแมวเป็นพิเศษ เพราะสภาพอากาศร้อนจัด น้องหมาน้องแมวจะได้รับผลกระทบจากความร้อนโดยตรง ทำให้ผิวหนังของน้องแห้งมากกว่าปกติ และเมื่อน้องหมาน้องแมวมีผิวหนังแห้งก็จะทำเกิดปัญหาอุ้งเท้าแห้ง ด้านขาดความชุ่มชื้น และข้อศอกด้านได้ง่ายขึ้น

    เจ้าของอาจจะใช้บาล์มบำรุงสำหรับอุ้งเท้าและข้อศอกน้องหมาน้องแมวที่มีส่วนผสมซึ่งมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวหนังอ่อนนุ่ม ไม่เป็นหยาบแห้ง ป้องกันการเกิดรอยด้าน ผิวหนังหนาในน้องหมาน้องแมว มาทาเพื่อรักษาและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังของน้องหมาน้องแมว

   สำหรับการเลือกบาล์มบำรุงที่จะนำมาทาบริเวณอุ้งเท้าและข้อศอกของน้องหมาน้องแมว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้มาตราฐาน ผ่านการรับรอง ปราศจาคสารระคายเคือง และอ่อนโยนกับผิวหนังของน้องหมาน้องแมว เพราะผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนังน้อง ๆ เหล่านี้จะสัมผัสกับผิวหนังและเส้นขนของน้องหมาน้องแมวโดยตรง หากผู้เลี้ยงใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนังและเส้นขนที่ไม่ได้มาตราฐาน หรือมีสารระคายเคืองต่อผิวหนังน้องผสมอยู่ เมื่อใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานเข้าก็อาจจะทำให้ผิวหนังของน้องอักเสบ ขนหลุดร่วงแทนที่จะมีผิวหนังที่ชุ่มชื้นสุขภาพดีแทน

ผลิตภัณฑ์ดูแลอุ้งเท้าและข้อศอกสำหรับน้องหมาน้องแมว เพิ่มความชุ่มชื้น ลดรอยแตกของอุ้งเท้า 2 สูตร ที่คัดสรรมาเพื่อความต้องการที่จำเพาะและปลอดภัยต่อน้องแมวและน้องหมา ซึ่งมีสัดส่วนผสมที่ต่างกัน และมีกลิ่นที่ช่วยให้ผ่อนคลายที่แตกต่างกัน ด้วยความเข้าใจความต้องการที่จำเพาะสำหรับน้องหมาและน้องแมวที่ต่างกัน

เพราะโครงการนี้วิจัยคิดค้นและพัฒนาสูตรโดยรองศาตราจารย์ ดร. ไชยวัฒน์ ไชยสุต เภสัชกร และแพทย์แผนไทย อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาและวิจัย ร่วมกับอาจารย์ประจำคณะสัตวแพทยศาสตร์  

มีผลงานวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ในวารสารวิชาการนานาชาติทางสัตวแพทย์ ที่ได้รับการยอมรับระดับสากล

► (2021). Influence of Probiotic Supplementation on Health Status of the Dogs: A Review. Applied Sciences

► (2023). Influence of Gallic Acid-Containing Mouth Spray on Dental Health and Oral Microbiota of Healthy Dogs: A Pilot Study

►(2022). Influence of Gallic Acid-Containing Mouth Spray on Dental Health and Oral Microbiota of Healthy Cats-A Pilot Study.

►(2024). Composition, Bioactivities, Microbiome, Safety Concerns, and Impact of Essential Oils on the Health Status of Domestic Animals.

1.ลดการเกิดผิวแห้งแข็งตึงหยาบกระด้าง (Keratinization)

Vitamin A

Biotin

Zinc

Omega3 (Docosahexaenoic acid (DHA)

2.เพิ่มความชุ่มชื้นอย่างมีประสิทธิภาพด้วย 

Shea butter

Mango butter

Vaseline jelly

Omega3 (Docosahexaenoic acid (DHA)

Grapeseed oil

Sweet almond oil

Avocado oil

Sunflower oil

Vitamin B3 (Niacinamide)

3.ลดการอักเสบและป้องกันการแพ้อย่างอ่อนโยนด้วย

สารสกัดจากต้นคอมเฟรย์ (Allantoin)

สารสกัดรากชะเอมเทศ (Dipotassium glycyrrhizate)

สารสกัดชาเขียว (Green tea extract (EGCG)

ว่านหางจระเข้ (Aloe vera extract)

สารสกัดคาโมมายด์ (Bisabolol)

4.ต้านอนุมูลอิสระด้วย 

Vitamin A

Vitamin E

5.ปรับสมดุลจุลินทรีย์บนผิวหนังเพื่อเสริมสร้างเกราะป้องกันที่แข็งแรงด้วยพรีไบโอติก ได้แก่

Fructooligosaccharide (FOS)

Inulin

กลิ่นของ Lavender ช่วยให้กลิ่นที่ผ่อนคลาย และมีความปลอดภัยสูงสำหรับน้องแมว และสัดส่วนของส่วนผสมของน้องแมวจะน้อยกว่า ทำให้มีความปลอดภัยสูงสำหรับน้องแมว

กลิ่นหอมจาก  Lavender ทำให้น้องหมา รู้สึกสงบและผ่อนคลาย กล่อมให้น้องหมาของคุณชวนฝัน

พร้อมโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคุณ ลดสูงสุด 40% อย่าช้ารีบเพิ่มเพื่อนเลย !!